การตรวจสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่น่าเชื่อถืออาจทำให้ผู้บริหารสูญเสียเงินหลายล้านบาทจากการหยุดทำงานและการซ่อมแซม และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ จะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนงานบาดเจ็บหรือเสียชีวิตโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ก่อนที่อุปกรณ์ไฟฟ้าจะถึงจุดที่อันตรายอย่างการเกิดประกายไฟและการระเบิดของประกายไฟเกิดขึ้น เป็นสัญญาณที่แสดงว่าอุปกรณ์ระบบไฟฟ้ากำลังไม่เสถียร และกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงการทำงานผิดพลาดของระบบไฟฟ้าที่มีค่าใช้จ่ายสูงและอันตรายนี้คือการตรวจสอบเชิงป้องกัน
การแสดงความผิดปกติบางอย่างเป็นสัญญาณแรกของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพ และผลกระทบของการเกิดความผิดปกตินี้จะสร้างสัญญาณคลื่นเสียงในอากาศ ซึ่งสามารถตรวจจับได้ง่ายด้วย วิธีการ Ultrasonic Image Inspection โดยสามารถค้นหาแหล่งที่มาของความผิดปกติบนอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงทุกประเภท เช่น สวิตช์เกียร์ หม้อแปลง สายไฟเหนือศีรษะ และสายเคเบิลใต้ดิน เป็นต้น
Ultrasonic Image Inspection
คืองานตรวจสอบสภาพฉนวนของระบบไฟฟ้าแรงสูง ด้วยวิธีการตรวจจับคลื่นเสียงความถี่สูง โดยแสดงผลเป็นภาพการเกิด Partial Discharge(PD) ทำให้ผู้ใช้สามารถรู้ถึงจุดปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนและนำผลมาวิเคราะห์สรุปผลแนวทางการแก้ไขได้ตรงจุด
โดยการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงเหล่านี้ด้วย วิธีการ Ultrasonic Image Inspection เหมาะสมกับประเภทธุรกิจที่มีระบบไฟฟ้าภายในโรงงานและระบบโรงงานที่มีท่อลม ท่อแก๊ส
Ultrasonic image inspection สามารถใช้ตรวจสอบอะไรได้บ้าง
1. ตรวจสอบฉนวนไฟฟ้า: ตรวจสอบสภาพของฉนวนไฟฟ้าในตัวนำและหม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อหาข้อบกพร่อง เช่น รอยแตก หรือฟองอากาศที่อาจทำให้เกิดการลัดวงจรหรือการเสื่อมสภาพของฉนวน
2. ตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้า: ใช้เพื่อตรวจสอบสภาพของขดลวดและส่วนประกอบภายในของหม้อแปลงไฟฟ้า รวมถึงการตรวจจับฟองอากาศหรือช่องว่างที่อาจทำให้เกิดการสลายตัวของฉนวน
3. ตรวจสอบตัวนำไฟฟ้า: ตรวจสอบสภาพภายในของสายไฟฟ้าและตัวนำเพื่อหาความเสียหาย เช่น รอยแตก หรือการกัดกร่อนที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งาน
4. ตรวจสอบอุปกรณ์เสริมไฟฟ้า: ใช้ในการตรวจสอบอุปกรณ์เสริม เช่น สวิตช์ไฟฟ้า ฟิวส์ และเบรกเกอร์ เพื่อตรวจหาข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นภายในอุปกรณ์
5. ตรวจสอบคอนเนคเตอร์และขั้วต่อ: ตรวจสอบสภาพการเชื่อมต่อของคอนเนคเตอร์และขั้วต่อในระบบไฟฟ้าแรงสูงเพื่อหาข้อบกพร่อง เช่น การหลวมของการเชื่อมต่อ หรือการเกิดสนิม
6. ตรวจสอบการเชื่อมต่อของตัวนำ: ตรวจสอบการเชื่อมต่อและการยึดตัวนำเพื่อให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อมีความมั่นคงและปลอดภัย
ข้อดีของการตรวจสอบ Ultrasonic Image Inspection มีดังนี้
1. การตรวจจับที่แม่นยำ: เทคโนโลยี Ultrasonic Image Inspection สามารถตรวจจับข้อบกพร่องหรือความเสียหายที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ เช่น รอยร้าวหรือการรั่วไหลเล็กน้อย
2. ความปลอดภัย: การตรวจสอบด้วย Ultrasonic Image Inspection ไม่ต้องสัมผัสกับวัตถุโดยตรง จึงไม่เสี่ยงต่อการทำลายวัตถุหรือบุคลากร
3. การใช้งานที่หลากหลาย: สามารถใช้ตรวจสอบวัตถุหลากหลายประเภท ทั้งในงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง และการแพทย์
4. ความรวดเร็วและประหยัดเวลา: การตรวจสอบด้วย Ultrasonic Image Inspection ใช้เวลาไม่นานเมื่อเทียบกับวิธีการตรวจสอบแบบอื่น
5. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน: ช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเกิดความเสียหายใหญ่ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
6. การแสดงผลที่ชัดเจน: ภาพที่ได้จากการตรวจสอบด้วย Ultrasonic Image Inspection สามารถแสดงผลเป็นภาพที่ชัดเจน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตีความและดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
7. ไม่มีสารเคมี: การตรวจสอบด้วย Ultrasonic Image Inspection ไม่ใช้สารเคมี ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
8. การตรวจสอบที่ซับซ้อน: สามารถตรวจสอบโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนได้ โดยไม่ต้องทำลายโครงสร้างภายนอก
การตรวจสอบด้วย Ultrasonic Image Inspection จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่าในการดูแลรักษาและตรวจสอบวัตถุในหลากหลายอุตสาหกรรม